เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เอกอัครราชทูตไทยประจำแคนาดา นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ และนายนันทพล สุดบรรทัด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (บีโอไอ) พร้อมคณะ ได้ประชุมหารือร่วมกับสภาธุรกิจแคนาดา-อาเซียน (CABC) และสำนักงานพัฒนาการส่งออกแคนาดา (EDC) โดย ออท. กัลยาณะ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยประจำแคนาดา ณ กรุงออตตาวา งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมโอกาสด้านการค้าและการลงทุนของแคนาดา และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจกับประเทศไทย โดย ออท. กัลยาณะ ได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของนักลงทุนแคนาดาและมีโอกาสทางธุรกิจร่วมกันเป็นอย่างมาก
ภายในงานมีผู้แทนเข้าร่วมจาก สภาธุรกิจแคนาดา-อาเซียน และสำนักงานพัฒนาการส่งออกแคนาดา โดย ออท. กัลยาณะ ได้แนะนำ ผอ. นันทพล จากหน่วยงานบีโอไอที่รับผิดชอบในการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและภารกิจชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศในพื้นที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา กิจกรรมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคการเงินและภาคเอกชน จำนวน 11 ราย โดยที่ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาการส่งออกแคนาดาแจ้งว่าจะเปิดสำนักงานใหม่ที่กรุงเทพฯ ในปีหน้า ภายใต้นโยบายยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงอินโด-แปซิฟิกของแคนาดา
ภายในงานได้มี Mr. Wayne Farmer ประธาน Canada-ASEAN Business Council กล่าวเปิดงาน ร่วมด้วยวุฒิสมาชิก Senator Clement Gignac, the Province Quebec – Kennebec กล่าวคำขอบคุณสำหรับการจัดงานและเน้นย้ำถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนทั้งทางด้านการค้าและการลงทุนของแคนาดา นอกจากนี้ Senator Gignac ยังแจ้งในที่ประชุมเกี่ยวกับแผนการเดินทางร่วมกับคณะผู้แทนจากแคนาดาไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียในช่วงปลายปีนี้ และการเข้าร่วมประชุมสุดยอด AsiaClean Energy ที่ประเทศสิงคโปร์
ผอ. นันทพล นำเสนอสิทธิประโยชน์และแรงจูงในการลงทุนจากรัฐบาลไทย พร้อมกับให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์ของประเทศไทยในส่งเสริมการลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในภูมิภาค และให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทุนฝึกอบรม และมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และมาตรการช่วยเหลือในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผอ. นันทพล ได้หารือในที่ประชุมเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาด และการเติบโตที่ยั่งยืนผ่านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และยังให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ เกษตรกรรม ดิจิทัล การแพทย์ครบวงจร และมาตรการ Long-Term Resident Visa (LTR) แก่ผู้เข้าร่วมหารือ
นอกจากนี้ ผอ. นันทพล ยังได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานพันธมิตร Invest in Canada ซึ่งเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนทั้งในแคนาดาและต่างประเทศ โดยมีการหารือโอกาสความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย อาทิ การส่งออกของบริษัทในแคนาดา และการชักจูงการลงทุนบริษัทแคนาดาที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาลงทุนในประเทศไทย |